รัฐแคลิฟอร์เนีย

ประวัติความเป็นมา
ในปี พ.ศ. 2312 สเปนได้ตั้งอาณานิคมขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย คลอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เมื่องซานดิเอโกมาจนถึงเมืองซานฟรานซิสโก ต่อมา อำนาจของสเปนสลายลงเมื่อแคลิฟอร์เนียได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโก ในปี พ.ศ. 2365 และเมื่อเกิดสงคราม ระหว่างสหรัฐอเมริกา – เม็กซิโก โดยที่ เม็กซิโกเป็นฝ่ายแพ้สงคราม จึงได้ยกดินแดนแคลิฟอร์เนียนี้ เป็นส่วยหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2393 นับเป็น มลรัฐลำดับที่ 31
ลักษณะภูมิประเทศ
แคลิฟอร์เนีย มีพื้นที่ 160,000 ตารางไมล์ (414,000 km2) ถ้าเป็นประเทศรัฐแคลิฟอร์เนีย จะเป็นประเทศที่มีพื้นที่มากเป็นอันดับที่ 59 ของโลก ในตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งอยู่กลางหุบเขาล้อมรอบด้วยภูเขา มีชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันตก, เทือกเขาเซียร์ราเนวาด้า ทางทิศตะวันออก, เทือกเขา Cascade Range ในภาคเหนือและเทือกเขา Tehachapi ในภาคใต้ ที่ราบหุบเขาตอนกลางของรัฐเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางการเกษตรของแคลิฟอร์เนียและของประเทศ ผลผลิตทางการเกษตรจากบริเวณนี้มีมูลค่าประมาณหนึ่งในสามของอาหารของประเทศสหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว
ที่ราบลุ่มที่สำคัญที่สุดของแคลิฟอร์เนียคือ Sacramento - San Joaquin River Delta, ส่วนทางเหนือเรียกว่า Sacramento Valley ทำหน้าที่เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำซาคราเมนโตในขณะที่ส่วนทางใต้, San Joaquin Valley เป็นลุ่มน้ำสำหรับแม่น้ำ San Joaquin River แม่น้ำที่ว่านี้ยังมีความลึกพอที่จะใช้เป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญและมีเมืองท่าเรือในแม่น้ำทั้งสองนี้หลายเมือง
เทือกเขา Sierra Nevada (ภาษาสเปน แปลว่า"snowy range") มียอดสูงๆติดอันดับของประเทศมากถึง สี่สิบแปดยอด, ยอดเขา Whitney, เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในรัฐนี้ คือ 14,505 ฟุต (4,421 เมตร) นอกจากนี้ยังมี ทะเลทรายโมฮาวี (Mojave Desert) ตั้งอยู่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของนครลอสแอนเจลิส มีเนื้อที่ประมาณ 39,000 ตารางกิโลเมตร ทะเลทรายโมฮาวีมีภูเขาล้อมรอบโดยทิศเหนือและทิศตะวันตกเป็นเทือกเขาเซียร์ราเนวาดา ทิศตะวันออกเฉียงใต้เชื่อมต่อกับทะเลทรายโคโลราโด พื้นทะเลทรายเป็นหินชั้นอุดมด้วยแร่ธาตุต่างๆ
มีฝนตกเพียงปีละ 115 มิลลิเมตร นอกจากนี้ก็มีจุดที่มีอุณหภูมิทั่วไปร้อนที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือที่อุทยานแห่งชาติ
ลักษณะทางด้านเศรษฐกิจ
แคลิฟอร์เนียรัฐเดียวผลิตผลิตภัณฑ์มวลรวม มีจำนวน ถึง 14% ของประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งหมด และเป็นมลรัฐที่ผลิตได้มากเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าลองมองว่าแคลิฟอร์เนียแยกเป็นประเทศอิสระ จะเป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ถัดจากประเทศฝรั่งเศส ภาคเกษตรกรรมเป็นอาชีพที่สำคัญที่สุดพืชเศรษฐกิจที่สำคัญเช่น ส้ม ซึ่งปลูกได้มากที่สุดของประเทศ ดอกไม้ ฝ้าย มันฝรั่ง หญ้าแห้ง และ สตรอเบอรี่ และธุรกิจที่เกี่ยวกับปริโตรเลียม ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ตามมาด้วยอวกาศยาน และธุรกิจบันเทิง และธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตในย่านซิลิคอนวัลเลย์
เมืองสำคัญ
ลอสแอนเจลิส (Los Angeles) หรือที่รู้จักในชื่อ แอลเอ (L.A.) เป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง ทางด้าน เศรษฐกิจ 

ซิสโก หรือ แซนแฟรนซิสโก (San Francisco) คือเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีประชากร ประมาณ 808,976 คนซึ่งเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นประชากรเป็นอันดับสองของประเทศ เมืองซานฟรานซิสโกตั้งอยู่บริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากในซานฟรานซิสโกคือชาวสเปน โดยในปี ค.ศ. 1776 เมืองมีชื่อว่า เซนต์ฟรานซิส (St. Francis) ในภายหลังจากช่วงยุคตื่นทองในปี ค.ศ. 1848 ทำให้ประชากรในซานฟรานซิสโกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมืองเติบโตอย่างมาก ถึงแม้ว่าซานฟรานซิสโกจะประสบปัญหา แผ่นดินไหวและไฟไหม้ขนาดใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1906 ซานฟรานซิสโกกลับฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และได้ชื่อว่าเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในแถบชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซานฟรานซิสโกมีลักษณะภูมิประเทศที่เป็นเขา และมีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก สัญลักษณ์ที่ขึ้นชื่อของเมืองซานฟรานซิสโกได้แก่ สะพานโกลเดนเกต และแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงได้แก่ เกาะอัลคาทราซ รถรางซานฟรานซิสโก Pier 39 และ ถนนลอมบาร์ด ทีมกีฬา อเมริกันฟุตบอล ที่สำคัญได้แก่ ซานฟรานซิสโก 49ers เป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ และชาวเอเชียอาศัยที่อ่าวซานฟรานซิโกเป็นจำนวนมาก (ชาวไทยก็เยอะครับ)
แซน ดีเอโก หรือ ซาน ดีเอโก (อังกฤษ : San Diego) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของรัฐแคลิฟอร์เนีย และอันดับที่9 ในสหรัฐอเมริกา มีประชากรโดยประมาณ 1,279,329 คนในปี 2008 เมืองชายฝั่งนี้ตั้งอยู่ใน San Diego County ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอย่างเมือง San Marcos จากการสำรวจของ Forbes เมืองซานดิเอโกนี้ก็อยู่อันดับ 5 ในเมืองที่รวยที่สุดในสหรัฐ อุตสาหกรรมหลักของซานดิเอโกคือ หัตถกรรม , การทหาร, และการท่องเที่ยว San Diego เป็นเมืองชายฝั่งตอนใต้ของ California ซึ่งมีบรรยากาศดี หาดทรายที่สวยงาม และแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อยู่ห่างจากเมือง Los Angeles แค่ 2 ชั่วโมง มีสภาพอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี ช่วงที่
ร้อนที่สุดเป็นช่วงปลายหน้าร้อน และช่วงต้นของฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนในเมือง San Diego มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเปี่ยมไปด้วยศิลปะ ซึ่งจะเห็นได้จากสิ่งก่อสร้าง เช่น San Diego Opera สถานที่เก็บศิลปะหายาก พิพิธภัณฑ์ โรงละคร La Jolla และอื่นๆอีกมากมายเนื่องจากเป็นเมืองชายฝั่งทะเล และเมืองท่าที่มีความสวยงาม แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวที่แห่งนี้ สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น Balboa Park, San Diego Zoo และ Gaslamp Quarter
แซนโฮเซ (San Jose) คือ เมืองใหญ่ที่สุดในย่านเบย์แอเรีย ในเขตแซนตาคลาราเคาน์ตีของรัฐแคลิฟอร์เนีย อยู่ทางตอนใต้ของแซนแฟรนซิสโก ราว 50 ไมล์ และอยู่ทางตอนเหนือของลอสแอนเจลิส ราว 390 ไมล์ เป็นเมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย รองจากลอสแอนเจลิสและแซนดีเอโก เมืองนี้ เป็น ศูนย์กลางแหล่งไอที หรือที่คนที่นี่เรียกกันว่า the capital of Silicon Valleyซึ่งเป็นแหล่งรวมของบริษัทด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เช่น Yahoo, Oracle, Sun, Cisco และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน กว่า 6,600 แห่ง อันประกอบด้วยคนหัวกะทิด้านไอทีจำนวนมากของโลกมารวมอยู่ในที่เดียวกัน
แซคราเมนโต (อังกฤษ: Sacramento) เป็นเมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในแซคราเมนโตเคาน์ตี้ บริเวณแม่น้ำแซคราเมนโตและแม่น้ำอเมริกัน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซาคราเมนโต้นี้เป็นเมืองหลวงของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย (อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นมหานครลอสแอนเจอลีสเป็นอันขาด) ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 9 ล้านคน ก่อตั้งเป็นเมืองเมื่อปี ค.ศ.1839 โดยนาย จอห์น ซัตเตอร์ ชาวสวีส กับเจมส์ ดับบยู มาแชลล์ ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเกิดการ “ตื่นทอง” กันขึ้นในบริเวณดังกล่าว ในขณะนั้นเมืองซาคราเมนโต้เป็นจุดการค้าที่ใหญ่โต อีกทั้งยังเป็นจุดขนถ่ายสินค้าไปยังเมืองต่างๆ อีกและยังเป็นศูนย์สินค้าทางด้านการเกษตร จึงเป็นจุดรวมของการพัฒนาจนกลายเป็นเมืองหลวงในที่สุด
หาก เรามองดูสภาพของซาคราเมนโต้ในปัจจุบัน ก็คงจะเหมือนกับเมืองหลวงหลายๆแห่งของสหรัฐอเมริกา ที่ผู้คนยังคงมีเงินทองในการจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคล่องตัว เพราะส่วนมากเป็นข้าราชการ หรือทำมาหากินกับกระทรวงทบวงกรมต่างๆ